วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2551

กฤษณา อโศกสิน
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

สุกัญญา ชลศึกษ์

นามแฝง:
กฤษณา อโศกสิน กัญญ์ชลา
เกิด:
27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2474 (อายุ 76 ปี)ตำบลสำราญราษฎร์ กรุงเทพ
อาชีพ:
นักเขียน
บิดา:
กระมล ชลศึกษ์
มารดา:
ทองโปร่ง ชลศึกษ์
คู่สมรส:
ประพันธ์ ญาณารณพ (2502 - 2512)สมพร ภูริพงษ์ ( - พ.ศ. 2527)
กฤษณา อโศกสิน นามปากกาที่แพร่หลายมากที่สุดของ สุกัญญา ชลศึกษ์ นักประพันธ์สตรีที่นับได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมในด้านการประพันธ์นวนิยาย จนสามารถเรียกได้ว่าเธอคือ ราชินีนักเขียนนวนิยาย ก็คงจะไม่มีผู้ใดกล้าคัดค้าน
เธอได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเขียนท่านหนึ่งที่พัฒนางานเขียนของตนเองอยู่ตลอดเวลา เนื้อหาของผลงานจะปรับเปลี่ยนไปตามสภาพสังคม จากจุดเริ่มต้นของงานเขียนในแนวรักใคร่ พัฒนามาสู่การหยิบยกปัญหาต่าง ๆ ในสังคมมาเขียนมากขึ้น จวบจนระยะเวลากว่า 50 ปีแล้วที่เธอได้สร้างสรรค์ผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง และยังคงก้าวตามความฝันต่อไปอย่างไม่ยอมหยุดยั้ง…จนมีผู้กล่าวไว้ว่าเส้นทางฝันของ กฤษณา อโศกสิน เพียงแค่จุดที่ยืนอยู่ในปัจจุบัน นักเขียนน้อยคนนักก็ยากที่จะก้าวมาถึงได้…
สุกัญญา ชลศึกษ์ เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนราชินี เริ่มต้นการประพันธ์ด้วยวัยเพียง 15 ปี เธอมุ่งมั่นจะเป็นนักเขียน มีผลงานเรื่องสั้นเรื่องแรก 'ของขวัญปีใหม่' ลงในหนังสือ 'ไทยใหม่วันจันทร์' ในนามปากกาว่า 'กัญญ์ชลา' ประมาณปี 2489 หลังจากจบการศึกษา ได้เข้าทำงานเป็นเจ้าหน้าที่เสมียน กรมประมง กระทรวงเกษตรฯ รับเงินเดือน 450 บาท แต่ทว่ายังมุ่งมั่นที่จะเป็นนักเขียนต่อไป มีผลงานเรื่องสั้นลงตีพิมพ์ในนิตยสาร 'ศรีสัปดาห์' และทยอยลงตีพิมพ์ออกมาเรื่อย ๆ อย่างสม่ำเสมอไม่น้อยกว่าร้อยเรื่อง ในขณะที่นวนิยายของเธอก็เริ่มมีออกมา ไม่ว่าจะเป็น หยาดน้ำค้าง, ดอกหญ้า, ดวงตาสวรรค์ ในปี 2545 ปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
สำหรับนามปากกา 'กฤษณา อโศกสิน' นั้นเริ่มใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2501 ด้วยผลงานนวนิยายชื่อว่า 'วิหคที่หลงทาง' ตีพิมพ์ใน 'สตรีสาร' และได้รับการต้อนรับจากผู้อ่านเป็นอย่างดี เธอเคยกล่าวถึงที่มาของนามนี้ว่า "ชื่อนี้นี่ประหลาด มันแว่บขึ้นมาในสมอง ในขณะที่นั่งคิดว่าจะใช้นามปากกาอะไร...เกิดขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ แปลออกมาได้ความว่า ไม้หอม ทรัพย์ที่ปราศจากทุกข์..." นามปากกานี้สร้างผลงานออกมาอย่างมากมาย เช่น น้ำผึ้งขม, ระฆังวงเดือน, ชลธีพิศวาส และอีกมากมายกว่าหนึ่งร้อยเรื่อง รวมทั้ง 'ปูนปิดทอง' ที่ทำให้เธอกลายเป็นนักเขียนรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมอาเซียน(ซีไรท์) ผลงานของกฤษณา อโศกสิน ได้รับการชื่นชมว่าเป็นงานเขียนกระเทาะเปลือกสังคมได้อย่างสะใจ ไม่ว่าจะเป็น ลานลูกไม้, ไฟทะเล, เสื้อสีฝุ่น, รอบรวงข้าว, เรือมนุษย์, ลมที่เปลี่ยนทาง, ฝันหลงฤดู, บุษบกใบไม้ ฯลฯ
ระหว่าง พ.ศ. 2510 - 2520 เป็นช่วง 10 ปีนั้นที่ สุกัญญา ชลศึกษ์ ทำงานมาก เขียนหลายแห่ง ส่วนมากเป็นรายสัปดาห์เช่น แม่ศรีเรือน, นพเก้า, ศรีสยาม, ดวงดาว เป็นรายสัปดาห์ทั้งนั้น เขียนวันละหนึ่งเรื่อง วันละหนึ่งตอนต่อหนึ่งเรื่อง
สุกัญญา ชลศึกษ์ ทำงาน9 โมงเช้าเหมือนกับเปิดออฟฟิศเลยค่ะ จนกระทั่งบางวันอาจจะเขียนจนถึง 6 โมงเย็นจึงจะเลิกงาน พอขึ้นข้างบนแล้วก็ต้องทำงานต่อ แต่จะเป็นงานตรวจต้นฉบับ
มีผลงานหลายเรื่องนำไปสร้างละครและภาพยนตร์มากมาย เช่น "เรือมนุษย์" "ดวงตาสวรรค์" ฝันกลางฤดุฝน" "น้ำผึ้งขม" เมียหลวง" "ไฟหนาว" "เสื้อสีฝุ่น" "ข้ามสีทันดร" "หน้าต่างบานแรก" "คาวน้ำค้าง" "เนื้อนาง" "ลายหงส์" "ปีกทอง" และก็เรื่อง "ปูนปิดทอง" "ห้องที่จัดไม่เสร็จ"

ผลงาน
นามปากกา กฤษณา อโศกสิน
กระเช้าสีดา
ข้ามสีทันดร
จำหลักไว้ในแผ่นดิน
ชลธีพิศวาส
ชาวกรง
ตะเกียงแก้ว
ตะวันตกดิน
ถ่านเก่าไฟใหม่
เนื้อใน
บัลลังก์ใยบัว
บ้านขนนก
บุษบกใบไม้
ประตูที่ปิดตาย
ปูนปิดทอง
พญาไร้ใบ
เพลงบินใบงิ้ว
ไฟทะเล
ไฟหนาว
ภมร
เมียหลวง
ไม้ผลัดใบ
รากแก้ว
รูปทอง
เรือมนุษย์
ลมที่เปลี่ยนทาง
ลมบูรพา
ลานลูกไม้
วิหคที่หลงทาง
เวียงแว่นฟ้า
หน้าต่างบานแรก
หนึ่งฟ้าดินเดียว
หลงไฟ
น้ำเซาะทราย
สวรรค์เบี่ยง

นามปากกา กัญญ์ชลา
ตะเกียงแก้ว
ลานลูกไม้,
ลายดอกไม้ร่วง
สาปสวาท

นามปากกาที่เปิดเผย
กฤษณา อโศกสิน
กัญญ์ชลา
สุกัญญา
สไบเมือง
สุปปวาสา
กระเรียนทอง
ญาดา

สุวรรณี สุคนธา

สุวรรณี สุคนธา
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


สุวรรณี สุคนธา เป็นนามปากกาของ สุวรรณี สุคนธ์เที่ยง (1 มี.ค. พ.ศ. 2475 ที่จังหวัดพิษณุโลก -3 ก.พ. พ.ศ. 2527) นักเขียนไทย
บิดาชื่อย้อย มารดาชื่อ แตงอ่อน มีพี่น้องสองคน สุวรรณีเป็นคนสุดท้อง เรียนชั้นประถมและมัธยมที่โรงเรียนสตรีเฉลิมขวัญสตรี พิษณุโลก แล้วมาต่อที่วิทยาลัยเพาะช่าง 2 ปี จากนั้นเรียนต่อคณะจิตรกรรมและประติมากรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้รับปริญญาศิลปศาสตร์แขนงจิตรกรรมเมื่อ พ.ศ. 2494 เริ่มสอนหนังสือที่โรงเรียนศิลปศึกษาอยู่ 3 ปี จึงย้ายไปสอนที่มหาวิทยาลัยศิลปากร ออกจากราชการหลังจากงานเขียนเริ่มเป็นที่นิยม เป็นนักเขียนจนถึงปีพ.ศ. 2515 เป็นบรรณาธิการนิตยสารลลนาจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
สมรสกับ ทวี นันทขว้าง มีบุตรธิดา 4 คน ต่อมาหย่าขาดกับสามีแล้วมาร่วมชีวิตกับนายศิริสวัสดิ์ พันธุมสุต
เริ่มงานเขียนเรื่องสั้นเรื่องเรื่องแรก ชื่อ " จดหมายถึงปุก" เมื่อ ปีพ.ศ. 2508 ตีพิมพ์ในสตรีสารใช้นามปากกา "สุวรรณี" ส่วนนามปากกา สุวรรณี สุคนธา นั้นประมูล อุณหธูป บรรณาธิการ สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ ในขณะนั้นเป็นผู้ตั้งให้เมื่อส่งเรื่องสั้นในสยามรัฐฯ นวนิยายเรื่องแรกคือ สายบ่หยุดเสน่ห์หาย ได้รับการต้อนรับอย่างดี
ผลงานที่ได้รับรางวัลวรรณกรรม เช่น เขาชื่อกานต์ ได้รับรางวัล ส.ป.อ. ในปี 2513 ด้วยปีกของรัก ได้รับรางวัลชมเชยสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ปี 2516 พระจันทร์สีน้ำเงิน ได้รางวัลยอดเยี่ยมปี 2519 สร้อยแสงแดง ได้รางวัลชมเชยเยาวชน ปี 2524
เสียชีวิตเพราะถูกชิงทรัพย์ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2527

ผลงานที่ตีพิมพ์
เรื่องของน้ำพุ
สายบ่หยุดเสน่ห์หาย
กิ่งฟ้า
เขาชื่อกานต์
คนเริงเมือง
เก้าอี้ขาวในห้องแดง
ความรักครั้งสุดท้าย
คืนนี้ไม่มีพระจันทร์
จามร
เดือนดับที่สบทา
ดอกไม้ในป่าแดด
ด้วยปีกของรัก
ทะเลฤๅอิ่ม
ทองประกายแสด
แม่ศรีบางกอก
พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ
เรื่องของเกด
ลูกรัก
พระจันทร์สีน้ำเงิน
สร้อยสวาท
สามเงา
สร้อยแสงแดง
อิตถีเพศ
สวนสัตว์(ใช้เป็นหนังสืออ่านนอกเวลา มีการแปลเป็นภาษาญี่ปุ่น)
ถนนสายรมณีย์
วันวาร
คืนหนาวที่เหลือแต่ดาวเป็นเพื่อน (รวมเรื่องสั้น)
บางทีพรุ่งนี้จะเปลี่ยนใจ(รวมเรื่องสั้น)
ผู้หญิงคนนั้นชื่อเสลา

Thaibooklover

Blog นี้ตั้งขึ้นด้วยความรักหนังสือไทยโดยนักเขียนไทย และนวนิยายแปลโดยนักแปลไทย